Tab กีต้าร์ออนไลน์

New Page 1
 

 Home   Tab กีต้าร์ออนไลน์  (กด SHOW  NOTES ก่อนครับ)

 

 

 

วันที่24

มาระโก 5:1-20

1 ฝ่ายพระองค์กับเหล่าสาวก ก็ข้ามทะเลไปยังแดนเมืองชาวเก-ราซา(สำเนาโบราณบางฉบับ อ่านว่า กาดารา ดังใน มธ.8:28) 2พอพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ มีคนหนึ่งออกจากอุโมงค์ฝังศพ มีผีโสโครกสิงได้มาพบพระองค์ 3คนนั้นอาศัยอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ และไม่มีผู้ใดจะผูกมัดตัวเขาอีกได้ แม้จะล่ามด้วยโซ่ตรวนก็ไม่อยู่ 4เพราะว่าได้ล่ามโซ่ใส่ตรวนหลายหนแล้ว เขาก็หักโซ่และฟาดตรวนเสีย ไม่มีผู้ใดมีแรงพอที่จะทำให้เขาสงบได้ 5เขาคลั่งร้องอึงอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ และที่ภูเขาทั้งกลางคืนกลางวันเสมอ และเอาหินเชือดเนื้อของตัว 6ครั้นเขาเห็นพระเยซูแต่ไกลก็วิ่งเข้ามากราบไหว้พระองค์ 7แล้วร้องเสียงดังว่า "ข้าแต่พระเยซูพระบุตรของพระเจ้าสูงสุด พระองค์มายุ่งกับข้าพระองค์ทำไม ข้าพระองค์ขอให้พระองค์สาบานในพระนามของพระเจ้าว่า จะไม่ทรมานข้าพระองค์" 8ที่พูดเช่นนี้ เพราะพระองค์ได้ตรัสแก่มันว่า "อ้ายผีโสโครก จงออกมาจากคนนั้นเถิด" 9แล้วพระองค์ตรัสถามชายนั้นว่า "เอ็งชื่ออะไร" มันตอบว่า "ชื่อกอง เพราะว่าพวกข้าพระองค์หลายตนด้วยกัน" 10มันจึงอ้อนวอนพระองค์เป็นอันมาก มิให้ขับไล่มันออกจากแดนเมืองนั้น 11มีสุกรฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่ที่ไหล่เขาตำบลนั้น 12ผีเหล่านั้นก็อ้อนวอนพระองค์ว่า "ขอโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเข้าในสุกรเหล่านี้เถิด" 13พระองค์ก็ทรงอนุญาต แล้วผีโสโครกนั้นจึงออกไปเข้าสิงอยู่ในสุกร สุกรทั้งฝูงประมาณสองพันตัวก็วิ่งกระโดดจากหน้าผาชันลงไปในทะเลสำลักน้ำตาย
14ฝ่ายคนเลี้ยงสุกรนั้น ต่างคนต่างหนีไปเล่าเรื่องทั้งในนครและบ้านนอก แล้วคนทั้งปวงก็ออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น 15เมื่อเขามาถึงพระเยซูก็เห็นคนที่ผีทั้งกองได้สิงนั้น นุ่งห่มผ้านั่งอยู่มีสติอารมณ์ดี เขาจึงเกรงกลัวนัก 16แล้วคนที่ได้เห็น ก็เล่าเหตุการณ์ซึ่งบังเกิดแก่คนที่ผีสิงนั้น และซึ่งบังเกิดแก่ฝูงสุกรให้เขาฟัง 17คนทั้งหลายจึงพากันอ้อนวอนพระองค์ให้เสด็จไปเสียจากเขตแดนเมืองของเขา 18เมื่อพระองค์กำลังเสด็จลงเรือ คนที่ผีได้สิงแต่ก่อนนั้นได้อ้อนวอนขอติดตามพระองค์ไป 19พระองค์ไม่ทรงอนุญาต แต่ตรัสแก่เขาว่า "จงไปหาพวกพ้องของเจ้าที่บ้าน แล้วบอกเขาถึงเรื่องเหตุการณ์ใหญ่ ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำแก่เจ้า และได้ทรงพระเมตตาแก่เจ้าแล้ว" 20ฝ่ายคนนั้นก็ทูลลา แล้วเริ่มประกาศในแคว้นทศบุรี ถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูได้ทรงกระทำเพื่อตัว และคนทั้งปวงก็ประหลาดใจนัก
--------------------------------------------
จงไปหาพวกพ้องของเจ้าที่บ้าน แล้วบอกเขาถึงเรื่องเหตุการณ์ใหญ่ ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำแก่เจ้า และได้ทรงพระเมตตาแก่เจ้าแล้ว – มาระโก 5:19
ที่ปรึกษาทางด้านองค์กรในนิวยอร์คกล่าวว่า นักศึกษาส่วนใหญ่จะจดจำสาระสำคัญของสิ่งที่นำเสนอเป็นกราฟและแผนภูมิได้เพียง 5% แต่จดจำเรื่องเล่าได้ถึงครึ่งหนึ่งในการนำเสนออันเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารเชื่อกันมากขึ้นว่า ประสบการณ์ของคนหนึ่งมีพลังเชื่อมโยงไปสู่อีกคนหนึ่ง ข้อเท็จจริงและตัวเลขมักชวนให้ผู้ฟังง่วงนอน แต่เรื่องราวชีวิตจริงจะกระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติ นักเขียนชื่อแอนเน็ต ซิมมอนส์ กล่าวว่า “ส่วนผสมที่หายไปของการสื่อสารที่ล้มเหลวคือ ด้านที่เกี่ยวกับมนุษย์” มาระโก 5:1-20 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่พระเยซูทรงขับผีออกจากชายผู้หนึ่งซึ่งชอบทำร้ายตนเองอย่างรุนแรงเพราะตกอยู่ใต้อำนาจของผี เมื่อได้สติชายผู้นั้นได้ขอติดตามพระเยซูไป แต่พระองค์ตรัสกับเขาว่า “‘จงไปหาพวกพ้องของเจ้าที่บ้านแล้วบอกเขาถึงเรื่องเหตุการณ์ใหญ่ ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำแก่เจ้า และได้ทรงพระเมตตาแก่เจ้าแล้ว’ ฝ่ายคนนั้นก็ทูลลา แล้วเริ่มประกาศในแคว้นทศบุรี ถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูได้ทรงกระทำเพื่อตัวและคนทั้งปวงก็ประหลาดใจนัก” (ข้อ 19-20) ความรู้และการพูดจาคล่องแคล่วมักจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ อย่าประมาทฤทธิ์อำนาจของสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อคุณ และอย่ากลัวที่จะบอกเล่าเรื่องราวของคุณแก่ผู้อื่น – DCM
ขอพระเจ้าครอบครองปากของข้า เจรจาถ้อยคำที่น่าฟังเล่าพระคุณชื่นใจแต่หนหลัง นำผู้คนมายังข่าวประเสริฐคือเรื่องราวพระคริสต์สิ้นพระชนม์ เพื่อไถ่บาปทุกคนแผนการเลิศหากยอมรับพระเยซูด้วยใจเปิด จะบังเกิดใหม่เป็นบุตรพระองค์- Sees
การประกาศพระกิตติคุณ คือการที่คนหนึ่งบอกข่าวดีให้อีกคนหนึ่งฟัง